คุยเรื่องความรักของ “หมอตั้ม ดิษกุล” ผู้ที่ใช้อาหารเป็นตัวกลางในการบอกรัก
14 February 2563
Highlights
- ในเดือนเเห่งความรัก เชื่อว่าใครหลายคนที่คงอยากยินคำว่า “รัก” จากคนพิเศษอยู่เเน่นอน เเละถ้าเขาคนนั้นไม่ได้บอกรักเรา ก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปนะคะ เพราะการบอกรัก ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาเพียงอย่างเดียว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่เรียกว่า “การกระทำ” เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาเเสดงออกมาอย่างตั้งใจ เเต่เราเองหรือเปล่าที่กลับมองข้ามไป
- วันนี้ MasterMind จึงชวน หมอตั้ม ดิษกุล ประสิทธิ์เรืองสุข หรือ หมอตั้ม มาสเตอร์เชฟ คุณหมอขี้อาย ที่ไม่ได้มองข้ามการบอกรักผ่านคำพูด เพียงเเต่เน้นการกระทำที่ทำต่อคนรัก ด้วยเมนูอาหารที่ผ่านความคิด ความตั้งใจของเขา ให้คนรักได้ทาน เพราะเชื่อว่าคนรักของเขาจะสัมผัสถึงความรักที่เขามีให้ได้มากกว่าความพูดเพียงคำเดียวอย่างเเน่นอน
เเค่เดินเขาร้านมา ก็ได้กลิ่นหมอ เอ้ย! กลิ่นหอมของขนมในร้าน “Atomic Pills” ระหว่างที่เราตั้งกล้องหามุมสัมภาษณ์รอคุณหมอนั้น ไม่นานนักคุณหมอของเราก็เดินทางมาถึง ไม่รอช้า เราก็เริ่มชวนคุณหมอคุยทันที
อะไรคือจุดเริ่มต้นในการหลงไหล เเละรักการทำอาหาร
จริง ๆ เรื่องความรักในการทำอาหาร มันเกิดขึ้นไม่รู้ตัว มันนานมาก ตั้งเเต่เด็ก ๆ เลย จำไม่ได้ว่าตั้งเเต่อายุเท่าไร รู้ตัวอีกทีก็ชอบทำอาหารเลย
ช่วงเริ่มตั้นหมอฝึกจากอาหารประเภทไหนก่อน
คือสมัยก่อนทำเป็นอาหารบ้าน ๆ ธรรมดา เป็นอาหารจีนๆ หน่อย ที่เขาเรียกอาหารเเบบข้าวต้ม ผัดผักบุ้ง ผัดกะหล่ำ อะไรเเบบนี้อะครับ หรือว่าเป็นเมนูที่อาหารเย็นตามบ้านทั่วไป
เเล้วหมอเรียนรู้เเละศึกษาการทำอาหารจากที่ไหน เเละใช้เวลาพัฒนาหรือพิสูจน์ตัวเองนานเเค่ไหนกว่าจะมาถึงขึ้นนี้
มันก็ไม่เชิงกับฝึกเรียนขนาดนั้นนะครับ ก็จะเน้นเเบบว่าทำอาหารให้ที่บ้านทานก่อนมื้อเย็น เเล้วก็ศึกษาจากตำราอาหารที่เราสนใจ สมัยนั้นมันก็เป็น Cook Book ใช่ไหมครับ สมัยนี้เริ่มมี YouTube เริ่มมีอะไร เราก็ทำตาม YouTube เเล้วก็ออกไปกินร้านอาหารต่างๆ ที่คุณพ่อคุณเเม่พาไป เเล้วเรารู้สึกว่า เอ้ย! รสชาตินี้มันน่าสนใจ มันมีอะไรที่ต่างจากที่เราเคยทำ เราก็เอากลับมา Adapt กับที่บ้าน เเล้วก็ฝึกทำทุกวัน เเล้วก็เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ
ทำไมถึงเลือกทำอาหารสไตล์ Healthy ได้รับเเรงบันดาลใจมาจากอะไร
จริงๆ มันมี 2 สาเหตุหลักๆ ก็คือหลังจากที่เรียนหมอ เราก็จะได้รู้อะไรมากขึ้นเกี่ยวกับการทานอาหาร การป้องกันโรค ประโยชน์ของวัตถุดิบอะไรต่าง ๆ พอเราเห็นปุ๊บ เราก็รู้สึกว่า เห้ย! รสชาติของวัตถุดิบพวกนี้ มันก็เป็นอะไรที่ดีอยู่เเล้ว ทำไมเราถึงไม่เอามาทำให้มันอร่อยมากขึ้น หรือว่าเเม้กระทั่งอะไรที่มันมีประโยชน์มาก ๆ เเต่ว่าไม่อร่อย เราสามารถทำให้มันอร่อยได้ไหม มันก็เป็นอะไรที่มันท้าท้ายสำหรับผม เเบบว่ามันเป็นความรู้ที่เราเรียนมา เราก็อยากทำอาหารให้มันอร่อยมากขึ้น เเล้วคนสนใจมากขึ้นด้วย
อย่างที่สอง ก็คือเริ่มดูเเลตัวเองมากขึ้น เรารู้สึกว่าเราอยากจะฟิตหุ่นให้มันดีขึ้น ลดความอ้วน เพิ่มกล้ามเนื้อ เอาความรู้ทุกอย่างมาประยุกต์ ๆ ใช้ มาทำอาหารเเบบที่ Healthy มากขึ้น เเละเหมาะสมกับ Life Style ของตัวเองมากขึ้น
เเล้วเป้าหมายสูงสุดในการทำอาหารของหมอตั้มคืออะไร
เป้าหมายสูงสุด ผมว่าก็เหมือนหมอทุกคนเเหละครับ ว่าเราอยากให้คนทั่วๆ ไป มีสุขภาพที่ดีขึ้น หนึ่งคือทุกคนรอบตัวมีสุขภาพดีขึ้น เราก็เเฮปปี้ เราเห็นเขามีความสุข เราก็มีความสุข สองก็คือ มันก็เหมือนเป็นการลดภาระงานของเเพทย์ที่มารักษาคนไข้ด้วย เพราะว่าถ้าคนป่วยน้อยลง เราก็ทำงานน้อยลง ก็เหมือนเป็นการควบคู่กันไปทั้งสองด้าน
เเล้วร้าน Atomic pills เกิดขึ้นได้อย่างไร มีอะไรเป็นเเรงบันดาลใจพิเศษ เเละทำไมต้องเป็น Atomic pills
ร้าน Atomic Pills เกิดขึ้นจาก Life Style ของผม ที่ชอบกินของหวานตามหลังอาหารคาวเกือบทุกมื้อ เเล้วก็รู้สึกว่ากินทุกครั้งมันก็วนกลับไปเหมือนเดิมว่าหุ่นของเรามันก็ไม่ได้กลับมาอย่างที่เราต้องการ กลับมาอ้วน ๆ เเล้วก็บางที่ไปเทรนกับเทรนเนอร์เขาก็บ่น ๆ เห้ย! ทำไมมันไม่ดีขึ้นสักที มันก็เลยเริ่มเป็นไอเดียขึ้นมา เห้ย! เราก็อยากทำของหวานที่มันดีกับสุขภาพด้วย หรือว่ากินเเล้วมันก็ไม่ได้กระทบกับสุภาพมากในเมนูที่มันลดไขมันไม่ได้จริง ๆ ก็พยายาม Adapt สูตรมาเรื่อย ๆ ลองคุยกับเพื่อนที่เรียนทางด้านเชฟมาโดยเฉพาะ คุยกับเพื่อนที่ทำงานหมอด้วยกัน ค่อย ๆ ปรับจูนกันจนเป็นสูตรสำเร็จขึ้นมา เห้ย! เราอยากจะเผยเเพร่สูตรเนี่ย ให้คนรู้จักมากขึ้น ให้คนมากินอาหาร Healthy มากขึ้น เเละก็ดีกับสุขภาพมากขึ้น ก็เลยเกิดเป็นร้าน Atomic Pills ขึ้นมาครับผม
เเสดงว่าทุกเมนู หมอตั้มได้ใช้ความรู้ทางการเเพทย์มาผสมผสานสร้างสรรค์เมนูด้วย
คือเมนูมันเกิดจากความรู้ทางด้านการเเพทย์ที่เราเรียนมาทั้งหมด บวกกับความรู้จากการทำอาหาร ไม่ว่าจากรายการที่เราไปเเข่งมา จากประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาทั้งหมด เอามาประยุกต์รวมกันกลายเป็นเมนูในร้าน Atomic Pills เเละเมนูอาหารทุกอย่างที่คิดขึ้นมา มันเกิดจากความรัก เเละความห่วงใยกับทุกคนรอบตัว เเละก็คนที่มาทานร้านอาหารเรา มันก็เหมือนเป็นการที่เราบอกรัก โดยที่เราไม่ต้องพูดออกมาอะครับ เป็นการบอกรักผ่านอาหารของเรา
ยังไม่ทันจะพูดจบดี หมอตั้มก็รีบชวนทีมงานไปดูเมนูสูตรใหม่ของร้าน ที่เขาคิด เเละตั้งใจทำมันออกมา เพื่อเเฟนคลับ เเละทุกคน เป็นของขวัญในเดือนเเห่งความรักนี้
หน้าตาหมอช่างมีความสุขเสียจริง อยากจะรู้เเล้วสิว่าอาหารที่หมอทำนั้นจะเป็นอะไร ส่วนใครที่อยากรู้วิธีขั้นตอนการทำ ก็สามารถเข้าไปตามดูได้ที่ เปิดมุมมองความรักของ "หมอตั้ม มาสเตอร์เชฟ"
อาหารจานนั้นคืออะไร
เมนูนี้ก็เป็น “Roche Cheesecake” ไอเดียมาจากตัวชีสเค้กที่เป็นเมนูขายดีของทางร้านก่อน ด้วยความที่เข้าสู่เดือนเเห่งความรัก เดือนวาเลนไทน์ เราก็เลย Adapt ให้เหมาะกับกับเดือนวาเลนไทน์ให้มากที่สุด ก็คือทำเป็นกลิ่นกุหลาบ เเล้วก็ใส่กลีบดอกกุหลาบจริง ๆ เข้าไปในตัวชีสเค้กด้วยครับผม
หมอตั้มมีมุมมองความรักผ่านอาหารเป็นอย่างไร ทำไมถึงเลือกวิธีบอกรักด้วยอาหาร
ผมรู้สึกว่าการบอกรักใครสักคน มันไม่จำเป็นต้องพูดด้วยคำพูดอย่างเดียว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ Action ที่เราทำให้กับคนที่เรารัก อย่างการทำอาหาร มันก็เป็นเหมือนกับการใส่ใจ เป็นการที่เเบบกว่าที่เราจะทำอาหารเมนูหนึ่งออกมา ที่เราต้องผ่านความคิด ความตั้งใจ ความพยายามจะทำหนึ่ง ๆ จาน มันก็เหมือนเป็น Action ที่ทำให้เขาเห็นว่า เห้ย! จริงๆ มันไม่จำเป็นต้องบอกรักก็ได้ เขาก็สามารถสัมผัสความรักที่เรามอบให้ได้
หมอให้ความสำคัญกับการบอกรักผ่านอาหารอย่างไร
ผมคิดว่าการบอกรักทางคำพูด มันไม่ได้สื่ออะไรขนาดนั้น ผมเเค่รู้สึกว่าการได้ลงมือทำอะไรสักอย่าง เป็นการทำให้เขาเห็นว่าเราตั้งใจจริง ๆ ที่เราต้องการอยากจะทำให้เขาเห็นจริง ๆ ว่าเนี่ย! เราทำด้วยรักจริง ๆ นะ