6 กฎหมายใหม่ 2563 รู้ไว้ก่อนเสียประโยชน์
5 February 2563
นอกจากข่าวสารที่เราต้องติดตามกันอยู่ทุก ๆ วันแล้ว เรื่องกฎหมายใหม่ 2563 ก็มีมาให้เราทยอยอัปเดตกันเกือบตลอดปีเช่นกัน...
ฉบับที่ 1 กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2563
เปิดปี 2563 มาวันแรกก็เริ่มมีผลบังคับใช้กันแล้วกับ "ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2563" ที่มีรายละเอียดออกมาเรื่อย ๆ ให้เราติดตามกัน ซึ่งจำนวนเงินที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีนั้น จะมาจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากกรมธนารักษ์ นอกจากนี้ก็ยังมีพรฎ. ลดภาษีที่ดินลงอีก 50-90% สำหรับที่ดินบ้าน-คอนโด และโรงไฟฟ้าตามมาอีกด้วย
ซึ่งเราสามารถศึกษาเงื่อนไข และตรวจสอบรายละเอียด ก่อนจะยื่นเสียภาษีกันได้ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 นี้ โดยจะมีการแจ้งประเมินภาษี ผ่านการส่งแบบประเมินภาษีให้แก่ผู้เสียภาษี ประมาณ มิ.ย. 63 นั่นเอง
- อัปเดต Timeline ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2563 ใครบ้างที่ต้องจ่าย?
- พรฎ.ประกาศลด 'ภาษีที่ดิน' 50-90% สำหรับที่ดิน บ้าน คอนโด และโรงไฟฟ้า
- เตรียมประกาศใช้! กฎหมายลูกภาษีที่ดินมาแน่ ลงนามเดือนมกราคมนี้
- ทำความรู้จักภาษีที่ดิน เริ่มใช้จริง 1 มกราคม 2563
ฉบับที่ 2 มาตรการส่งเสริมการออมระยะยาว 2563
สำหรับคนที่อยากลองลงทุนแบบความเสี่ยงน้อย ๆ "กองทุนรวมเพื่อการออม" หรือ Super Savings Fund: SSF ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะคุณจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามมาตรการส่งเสริมการออมระยะยาว 2563 ร่วมด้วย
โดยกองทุน SSF นี้จะได้สิทธิประโยชน์ต่างจากกองทุนรวม LTF ตรงที่เราสามารถใช้ ลดหย่อนภาษี 2563 ได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึ่งประเมิน (แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท) และจะต้องถือหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี (ภายใต้เงื่อนไขที่หากนำไปรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุประเภทอื่น ๆ อย่าง RMF, PVD หรือกบข. แล้วจะต้องไม่เกิน 5 แสนบาทนั่นเอง
รวมถึงกองทุนรวม RMF เองก็ได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ลงทุน สามารถใช้ ลดหย่อนภาษี 2563 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิม 15% ภายใต้วงเงิน 5 แสนบาท พร้อมมีการยกเลิกข้อกำหนดจำนวนการซื้อกองทุน RMF ขั้นต่ำออกไป ทำให้เราสามารถเข้าถึงกองทุนตัวนี้ได้ง่ายมากขึ้นด้วย
- แชร์วิธีลงทุนในกองทุนสำหรับมนุษย์เงินเดือน
- ลงทุนในกองทุนรวมยังไงให้มีแต่ได้กับได้!
- ซื้อกองทุนไหนดี ถึงจะเก็บเงินล้านได้ก่อนเกษียณ (สำหรับมือใหม่)
- ซื้อ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เหมาะกับเราหรือไม่?
- รู้จักประเภทกองทุนรวม ตัวช่วยสู่ความมั่นคงทางการเงิน
ฉบับที่ 3 กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก 2563
สำหรับการคุ้มครองตามกฏหมายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อสถาบันการเงิน อันได้แก่ ธนาคารพาณิชย์, บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์มีเหตุให้ต้องปิดกิจการลง ผู้ที่ฝากเงินกับสถาบันการเงินนั้น ๆ ก็จะได้ความคุ้มครองเงินฝากลดลงเหลือ 1 ล้านบาทเท่านั้น
ฉบับที่ 4 ภาษี e-Payment 2563
เป็นเกณฑ์ที่กำหนดให้สถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์, สถาบันการเงินของรัฐ และผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ รายงานข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมเฉพาะ
- การฝาก/รับโอนเงินที่รวมกันทุกช่องทาง ทั้งเคาท์เตอร์ธนาคาร ตู้ ATM และ Internet Baking ทุกบัญชีรวมกันแล้ว เกิน 3,000 ครั้งต่อปีต่อธนาคาร (ไม่ว่าจะมียอดเงินจำนวนเท่าใดก็ตาม)
- กรณีมีการฝาก/รับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน ตั้งแต่ 400 ครั้งต่อปีต่อธนาคาร และมียอดเงินรวมกันเกิน 2 ล้านบาท
โดยข้อมูลต่าง ๆ ทางสถาบันการเงินจะเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ตั้งแต่ มี.ค. 62 ก่อนจะเริ่มส่งให้กรมสรรพากรในวันที่ 31 มี.ค. 63
ฉบับที่ 5 พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมาย และการประเมินผลสัมฤทธิ์
ความจริงแล้ว กกฏหมายฉบับเริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ พ.ย. 2562 แล้ว แต่ในปี 2563 นี้จะเน้นเพิ่มประสิทธิภาพ ยกเลิกหรือแก้ไขกฏหมายให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับบริบทของเศรษฐกิจ ตลอดจนสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปมากยิ่งขึ้น
โดยกฎหมายทุกฉบับที่ภาครัฐจะออกนับจากนี้ไป จะต้องมีการประเมินผลการบังคับใช้ทุก ๆ รอบระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับด้วย
ฉบับที่ 6 กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ปี 2562 ที่ผ่านมา กฎหมายฉบับนี้ได้ประกาศใช้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในหมวดหมู่ที่เกี่ยวคณะกรรมการ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงบทเฉพาะกาลบางส่วน แต่สำหรับส่วนที่เหลือ อย่าง การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล, สิทธิของเจ้าของข้อมูล, การร้องเรียน และหมวดการรับผิดต่าง ๆ นั้นจะมีการประกาศใช้ในวันที่ 28 พ.ค. 2563 โดยจะต้องมีการเผยแพร่ และกำหนดวิธีการให้เจ้าของข้อมูลสามารถยกเลิกความยินยอม หรือแจ้งความประสงค์ในการไม่ให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้ต่อไปได้
อ้างอิง : www.bangkokbiznews.com