[Review] ‘Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra’ คอนโดติด Sky Walk สถานีตลาดพลู เนรมิตให้ทุกจุดหมายใกล้กว่าที่เคยสัมผัส
ถนนราชพฤกษ์ (สายตากสิน-เพชรเกษม) แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
Altitude Development
HIGHLIGHTS
เชื่อมต่อการเดินทางแสนสบายในก้าวเดียว ด้วย BTS Sky Walk ติดทางเข้าโครงการ
- สะดวกทุกการเดินทาง ด้วยทำเลติด BTS สถานีตลาดพลู 0 เมตร พร้อม Sky Walk ที่เชื่อมต่อกับทางเข้าโครงการ ให้คุณเข้าถึงทุกพื้นที่ได้ง่ายดายอย่างที่ไม่เคยสัมผัส
- ให้ Facility มาจุใจ ตอบสนองทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง ทั้งฟิตเนสที่มีผาจำลอง, ห้อง E-Sport สำหรับคอเกม, Lobby กับบริการบาร์เครื่องดื่มจาก Falabella พร้อมมุมกาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ตกแต่งแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบครันแบบมัลติฟังก์ชัน เก็บของได้เยอะ ไม่เปลืองพื้นที่
- ตั้งอยู่ในทำเลที่สงบ ให้ความเป็นส่วนตัว และประสบการณ์ในการพักผ่อนที่ดีกว่า
Project Review
Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยแนวคิดที่เป็นมากกว่าการ Design โครงสร้างที่สวยงาม คงทน แต่ยังมีส่วนกลางที่ครบครันทุกฟังก์ชัน ลงตัวกับทุกการใช้ชีวิต นอกจากนี้ยังมองไกลไปถึงการสร้างโอกาส และมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้อยู่อาศัย ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาสังคมที่สามารถนำความเชี่ยวชาญและ Connection มา Synergy กันและกันได้, อยู่ท่ามกลางการใช้ชีวิตของกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จ และพร้อมสร้างโอกาสให้ตัวเองเสมอ เพราะสังคมที่เราจะนำพาตัวเองเข้าไปอยู่นั้น สามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณได้จริง!!
ให้ความสำเร็จของคุณ อยู่ใกล้เพียงแค่ปลายนิ้ว ที่ Altitude Unicorn (อัลติจูด ยูนิคอร์น)
รายละเอียดโครงการ Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra
ชื่อโครงการ : Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra (อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ)
เจ้าของโครงการ : อัลติจูด ครีท ตลาดพลู
ที่ตั้งโครงการ : ถนนราชพฤกษ์ (สายตากสิน-เพชรเกษม) แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
พื้นที่โครงการ : 2-3-65.4 ไร่
ลักษณะโครงการ : คอนโด High Rise 34 ชั้น
จำนวนห้อง : 711 ยูนิต
รูปแบบห้อง :
- Type One Bedroom : 23.64-34.56 Sq.m.
- Type One Bedroom Plus : 36.98-45.18 Sq.m.
- Type Loft One Plus One Bedroom : 39.08-69.28 ตร.ม.
ที่จอดรถ : 263 คัน (40%) *รวมซ้อนคัน
ราคาเริ่มต้น : 2.19 ล้านบาท
Floor Plan โครงการ Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra
Altitude Unicorn Sathorn - Tha Phra คอนโดมิเนียม High Rise สูง 34 ชั้น ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีตลาดพลู สำหรับภาพรวมของโครงการ หากมองจากตัวโมเดลจะแสดงให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ที่สะดวกสบายจากรถไฟฟ้าที่วิ่งผ่านหน้าโครงการ ตัวอาคารตกแต่งร่มรื่น ดูมีชีวิตชีวา และมีชั้น Loft สูง 4.6 เมตรทั้งหมด 3 ชั้น ที่ช่วยดึงความโดดเด่นของตัวอาคารขึ้นมาได้อย่างลงตัว
บริเวณ Ground Floor ที่ติดกับถนนด้านหน้าโครงการนั้น จะเป็นช่องทางเดินรถเข้า-ออกแบบทางเดียว พร้อมจุด Drop Off ในลักษณะวงเวียน เพื่อให้เราจอดรับ-ส่งคน และสามารถวนรถออกในทิศทางเดียวกันได้อย่างสะดวก
- โดยตรงจุด Drop Off นี้จะเชื่อมต่อไปยังส่วน ‘Lobby’ ที่อยู่ด้านในโครงการ ซึ่งมีทั้งพื้นที่รองรับแขก, มุมนั่งเล่น, Coffee Bar และ Cocktail Bar by Fallabella ไว้รอต้อนรับ และให้บริการอยู่ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนของห้อง Mail Box สำหรับจัดเก็บจดหมาย และพัสดุส่วนตัวของลูกบ้านแต่ละยูนิต อยู่ใกล้ ๆ กับ Lift Lobby 2 ตัวสำหรับโดยสารอยู่ที่ชั้นนี้ด้วย
สำหรับการใช้งานรถไฟฟ้า BTS ที่อยู่ติดกับโครงการนั้น ก็จะมีทางให้เดินเชื่อมขึ้นไปยัง Sky Walk ได้จากพื้นที่โครงการเลย และในอนาคต พื้นที่ตรงบริเวณด้านหน้าโครงการจะมีการปล่อยเช่าให้กับร้านสะดวกซื้อ ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยสะดวกสบาย ครบจบได้ในที่เดียว โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไกลออกไปนอกโครงการเลย
ในส่วนของ ‘พื้นที่จอดรถส่วนตัว’ จะอยู่ที่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 6 สามารถรองรับการจอดได้ทั้งหมด 263 คัน หรือคิดเป็น 40% จากยูนิตพักอาศัยทั้งหมด (รวมจอดซ้อนคัน) โดยจะมีการเดินรถแบบทางเดียว คือ วนซ้ายเข้ามาจากทางเข้า ส่วนทางเข้า-ออกลานจอดรถนั้นจะอยู่ทางด้านหลังสุดของตัวอาคาร
นอกจากนี้ด้านหลังสุดของโครงการจะมีสวนหย่อมขนาดเล็ก ให้เรามานั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย
โดยพื้นที่จอดรถบริเวณชั้น 2 ถึงชั้น 6 จะอยู่รวมกับพื้นที่ส่วนกลาง อย่างที่ชั้น 3 ก็จะรวม Co-Working, Meeting Room และห้องซักผ้าเอาไว้ด้วย
ชั้นพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 7 เป็นต้นไป โดยชั้น 7 นี้จะมี Facility อื่น ๆ รวมอยู่ด้วย อย่าง สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และ Co-Kitchen ซึ่งจะมีจำนวนยูนิตพักอาศัยรวมทั้งหมด 17 ยูนิต ประกอบไปด้วย...
- Room Type : L-1BR (Loft 1+1 Bedroom) 13 ยูนิต
- Room Type : LC-1BR (Loft 1+1 Bedroom) 2 ยูนิต
- Room Type : L-1+1BR (Loft 1+1 Bedroom) 2 ยูนิต
สำหรับชั้น 8 เองก็จะมีส่วนของพื้นที่ส่วนกลางด้วยเช่นกัน โดยส่วนกลางดังกล่าวจะเป็นระเบียงชั้นลอย ที่เราสามารถเข้ามานั่งเล่นชมวิวสระว่ายน้ำได้ ส่วนจำนวนยูนิตพักอาศัยจะมีทั้งหมด 19 ยูนิต ประกอบไปด้วย...
- Room Type : L-1BR (Loft 1+1 Bedroom) 15 ยูนิต
- Room Type : LC-1BR (Loft 1+1 Bedroom) 2 ยูนิต
- Room Type : L-1+1BR (Loft 1+1 Bedroom) 2 ยูนิต
ชั้นที่ 9, ชั้น 10 - 19 และชั้น 23 - 31 เป็นต้นไปจะเป็นชั้นพักอาศัยแบบ 100% ไม่มี Facility อยู่ด้วย จึงให้บรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบเป็นพิเศษ มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 27 ยูนิต ประกอบไปด้วย...
- Room Type : 1BR (1 Bedroom) 13 ยูนิต
- Room Type : SUITE-BR (1 Bedroom) 6 ยูนิต
- Room Type : C-1BR (1 Bedroom) 3 ยูนิต
- Room Type : 1+1BR (1 Bedroom Plus) 3 ยูนิต
- Room Type : D-1BR (1 Bedroom Plus) 2 ยูนิต
เมื่อขึ้นมาบนชั้น 20-21 และชั้น 32-33 จะมีห้องพักอาศัยต่อชั้นรวม 27 ยูนิต แต่จะพิเศษกว่าตรงที่ ห้องของชั้นเหล่านี้จะมาในรูปแบบ Loft แทน โดยแต่ละห้องจะมีความสูงอยู่ที่ 4.6 เมตร เหมาะสำหรับการพักผ่อนทุกรูปแบบ ตั้งแต่อยู่คนเดียวไปจนถึงครอบครัว ประกอบไปด้วย...
- Room Type : L-1BR (Loft 1+1 Bedroom) 21 ยูนิต
- Room Type : LC-1BR (Loft 1+1 Bedroom) 3 ยูนิต
- Room Type : L-1+1BR (Loft 1+1 Bedroom) 3 ยูนิต
และแล้วก็มาถึงชั้นที่ 34 หรือ Sky Garden ซึ่งชั้นนี้จะเป็นชั้น Rooftop สูงสุดของโครงการ ประกอบไปด้วยพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน แบ่งเป็น Theatre, Co-Living, Rooftop Garden และ Rooftop Jogging Track ที่ให้ความรู้สึกร่มรื่น สบายตา ทั้งยังดูพริ้วไหว เหมาะจะชวนกันมานั่งรับลม ชมพระอาทิตย์ตกช่วงเย็น
พื้นที่ส่วนกลาง Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra
LOBBY BAR by FALLABELLA : ล็อบบี้บาร์ ภายใต้บรรยากาศพักผ่อนที่ช่วยเติมเต็มความสนุกสนาน และเอนเนอร์จี ผ่านแสงสีเสียงที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยม นอกจากนี้ก็ยังมี ‘Cocktail Bar’ พร้อมมีบาร์เทนเดอร์จาก Falabella มาเพิ่มความน่าสนใจ กลายเป็นจุดพบปะพูดคุยไว้ปิดดีลธุรกิจ หรือแลกเปลี่ยนไอเดียซึ่งกันและกัน
Co-Working Space : มุมทำงานที่เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย จนกลายเป็น space หลักของนักคิด นักสร้างสรรค์ที่มีความมุ่งมั่น เพื่อให้โอกาสได้อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่เคย เพราะส่วนนี้จะเป็นทั้งพื้นที่นั่งทำงานที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และสร้าง Community ในการแลกเปลี่ยนความรู้และไอเดียกับกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจด้านต่าง ๆ
Grand Pool : สระว่ายน้ำดีไซน์เก๋ ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากแกรนแคนยอน ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบ และมาพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิภายในสระน้ำ เพื่อการลงว่ายในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกโดยเฉพาะ นับเป็นการพักผ่อนและรีแล็กซ์หลังเลิกงานได้อย่างเต็มที่
Fitness Center : ให้การออกกำลังกายในชีวิตประจำวันของเราหลากหลาย และสนุกได้มากกว่าที่เคย ด้วยอุปกรณ์และรูปแบบการออกกำลังกายที่มีให้เลือกตามความต้องการ ตั้งแต่กีฬาเบา ๆ ไปจนถึงการใช้ร่างกายหนัก ๆ ไม่ว่าจะเป็น Hiking, Boxing, Cardio, Yoga, Yoga Fly ไปจนถึงอุปกรณ์ฟิตเนสมาตรฐาน ที่จะมาช่วย Motivative การออกกำลังกายของเราให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
Co-Kitchen and Party Space : ครัวกลาง และพื้นที่สำหรับจัดงานเลี้ยงเป็นหนึ่งใน facility ที่เติมเต็มความต้องการของคุณให้เต็มอิ่มขึ้น ด้วยขนาดที่สามารถรองรับได้มากถึง 30 คน พร้อมมีอุปกรณ์ครบครันสำหรับการทำอาหารและขนม ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับจัดงานปาร์ตี้แล้ว เรายังสามารถใช้เป็นพื้นที่ต่อยอดการทำอาหาร เหมาะสำหรับคนที่ชอบทดลองเมนูใหม่ ๆ ในธุรกิจส่วนตัวได้อีกด้วย
E-Sport Room : Altitude Unicorn Sathorn - Tha Phra เป็นคอนโดในเมืองไทย ‘ที่แรก’ ที่มีห้องสำหรับ E-Sport ไว้เอาใจคอเกมอย่างจุใจด้วยเครื่องเล่น และยังรองรับ Multimedia ได้อีกหลากหลายรูปแบบ
Co-Living Space : Rooftop Living Room ขนาดใหญ่บนชั้นสูงสุด ที่ให้คุณได้พบปะผู้คนใหม่ ๆ และนั่งพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศของวิวเมืองที่สวยงาม นอกจากนี้ยังใช้เป็นพื้นที่สำหรับนัดพบกับกลุ่มเพื่อน เพื่อนั่งชิลล์เอาท์ร่วมกันได้
Mini Theatre : หากใครผ่อนคลายความเครียดด้วยภาพยนตร์ดี ๆ สักเรื่อง ก็พลาดไม่ได้เลยกับ Theatre แบบ Bedseat Suite ที่ให้คุณสามารถเอนกายให้สบายตัว ไปพร้อม ๆ กับการรับชมหนังเรื่องโปรด ส่วนใครที่ชอบดูหนังอินเทรนด์ ภายในก็มีโปรแกรมภาพยนตร์ชนโรงพร้อมฉายให้ชมกัน และนอกจากจะเป็น Theatre แล้ว ส่วนนี้ยังเป็น Function Room สามารถใช้จัดประชุมสัมมนาได้ในตัว
Rooftop Jogging Track and Rooftop Garden : ให้คุณผ่อนคลายได้มากกว่าที่เคย ด้วยสวนบนชั้น 33 พร้อมลู่วิ่ง Jogging Track ที่ยาว 300 กว่าเมตร เรียกว่า เหมาะทั้งนั่งพักผ่อนชมวิวรับลมบนจุดสูงสุดของโครงการ และการวิ่งออกกำลังกายท่ามกลางสวนสีเขียวเลยทีเดียว
Room Review
LOFT 1+1 BEDROOM (50.78 sq.m.)
ห้อง Loft 1+1 Bedroom ขนาด 50.78 ตร.ม. จะเป็นห้องแบบ 2 ชั้น ที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการอาศัยอยู่บ้าน มีความสูงระหว่างพื้นถึงเพดานครัว และห้องนั่งเล่นมากถึง 4.6 เมตร ส่วนบริเวณห้องน้ำกับห้องนอนจะสูงประมาณ 2.3 เมตร นับว่าห้อง Type นี้ค่อนข้างให้ความโปร่งสบายได้มากทีเดียว
สำหรับการแบ่งสัดส่วนของแต่ละห้องจะอยู่ในขนาดที่ใกล้เคียงกัน สามารถใช้งานได้เต็มที่ทุกฟังก์ชัน เริ่มต้นจากทางเข้าห้องซึ่งเป็นพื้นที่โล่งที่ประกอบด้วย ‘ครัวเปิด’ และ ‘มุมนั่งเล่น’ ขยับไปด้านในสุดจะเป็น ‘ระเบียง’ ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน
ส่วนด้านขวามือของหน้าประตูจะเป็นห้องน้ำ, บันได และห้องนอนตามลำดับ ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดเดียวกันกับห้องนอนด้านล่าง ทำให้เราสามารถพักผ่อนได้เต็มที่ทั้ง 2 ชั้น
- ห้อง Type นี้ จะเหมาะทั้งครอบครัวขนาดเล็กตั้งแต่ 2 คน ไปจนถึงพ่อแม่ลูกที่อยู่ด้วยกัน 3-4 คน โดยอาจจะไม่ได้เน้นการทำอาหารในชีวิตประจำวันมากนัก แต่เราจะได้พื้นที่พักผ่อน อย่าง ห้องนอนที่กว้างขวางและเป็นส่วนตัว ทั้งยังมีพื้นที่ระเบียงสำหรับใช้พักผ่อน และงานซักล้างอีกด้วย
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง เราจะเจอกับพื้นที่ปลอดโปร่งที่สูงถึง 4.6 เมตรก่อนเป็นอันดับแรก และเมื่อได้แสงสว่างจากระเบียง กับกระจกบานใหญ่เต็มความสูงห้องก็ยิ่งช่วยขับบรรยากาศห้องให้สดชื่น สดใส ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ก็ยังมีวิวสวย ๆ ด้านนอกมาคอยต้อนรับคุณกลับบ้านอย่างอบอุ่นด้วย
หันไปทางด้านซ้ายมือจะเจอเคาน์เตอร์ครัว อยู่ติดกับโต๊ะอาหารและบันไดทางขึ้นชั้น 2 ส่วนฝั่งขวาจะเป็นตู้เก็บรองเท้าที่อยู่ติดกันกับห้องน้ำ โดยในสุดของชั้นนี้เป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น, ห้องนอน และระเบียงตามลำดับ
สำหรับ ‘โซนครัว’ ที่โครงการ Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra ให้มานั้น จะมีขนาดพอเหมาะสำหรับการประกอบอาหารเบา ๆ แบบอุ่นร้อนมากกว่า โดยฝั่งซ้ายสุดจะเป็นพื้นที่สำหรับให้วางตู้เย็นขนาดใหญ่พร้อมปลั๊กไฟด้านหลัง คราวนี้มาดูที่ตัวเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง ซึ่งทางโครงการก็ได้บิลต์อินตู้ตั้งพื้น และชั้นเก็บของแขวนผนังเอาไว้ให้ ติดกันจะเป็นโต๊ะทานข้าวตัวยาวพร้อมเก้าอี้นั่งอีก 3 ตัว ซึ่งเป็นตัวช่วยอย่างดีในการช่วยแบ่งสัดส่วนระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่น
เคาน์เตอร์ครัวสามารถจัดเก็บอุปกรณ์ทำครัว, ภาชนะ, ช้อนส้อมต่าง ๆ , เครื่องปรุง และอาหารแห้งได้ค่อนข้างเยอะ พร้อมเว้นช่องสำหรับวางไมโครเวฟพร้อมปลั๊กไฟไว้ให้ด้วย ส่วนบริเวณท็อปครัว ทางโครงการก็จะให้ซิงก์ล้างจานสเตนเลสติดตั้งมาคู่กับก๊อกน้ำ มีเตาไฟฟ้าขนาด 2 หัว กับเครื่องระบายอากาศแบบปล่อยนอกอาคารจากแบรนด์ Teka มาให้
- สำหรับใครที่ต้องการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างเครื่องชงกาแฟ, เครื่องปิ้งขนมปัง และอื่น ๆ ตรงบริเวณผนังจะมีปลั๊กไฟมาให้อีก 2 ช่องเสียบ
โต๊ะทานข้าวที่อยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว จะเป็นลักษณะโต๊ะแนวยาวที่สามารนั่งทานพร้อมกันได้ 3-4 คน ซึ่งทางโครงการจะให้มาทั้งโต๊ะและเก้าอี้จำนวน 3 ตัว ขณะเดียวกันเราก็ยังสามารถใช้โต๊ะนี้เป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารได้ด้วย
ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นทางเข้าห้องน้ำ ที่อยู่ติดกับตู้สำหรับจัดเก็บรองเท้า พร้อมมีปลั๊กไฟติดตั้งไว้ให้ด้านบน ซึ่งเราสามารถวางเครื่องทำความชื้น, ลำโพง หรืออุปกรณ์ Smart Home อื่น ๆ ไว้ที่บริเวณนี้ได้เช่นกัน
สำหรับ ‘Smart Mirror’ ที่ติดตั้งอยู่ด้านบนตู้เก็บรองเท้านี้ จะเป็นนวัตกรรมที่คล้ายกับตัว Tablet ซึ่งจะใช้ระบบ Android OS ในการเชื่อมต่อข้อมูลออนไลน์ ทำให้เราสามารถใช้งานยูทูป เพื่อเปิดเพลงฟังภายในห้องได้ทันที (หากใครสนใจก็สามารถติดต่อฝ่ายขาย เพื่อสอบถามโปรโมชันของ Smart Mirror ได้)
มาสำรวจต่อที่ ‘ห้องน้ำ’ กันบ้าง ซึ่งภายในห้องน้ำจะแบ่งออกเป็นส่วนเปียกและแห้ง สำหรับส่วนแรกที่เปิดประตูเข้าไปเจอจะเป็นโซนแห้ง ประกอบไปด้วย อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ส่วนกระจกเงาที่ได้ก็มีขนาดจุใจ ยาวเต็มพื้นที่ของส่วนแห้งเลยทีเดียว โดยด้านในสุดเป็นพื้นที่ของส่วนเปียกที่กั้นด้วยพาร์ทิชัน กระจกใส เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากฝักบัวกระเด็นออกมาเปียกส่วนแห้งนั่นเอง
อ่างล้างหน้าที่ทางโครงการ Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra ให้มาจะเป็นของแบรนด์ COTTO ตกแต่งพร้อมชั้นวางของด้านล่าง เราจึงสามารถใช้จัดวางเครื่องสำอาง, เทียนหอม หรือใช้จัดเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ถนัดมือ ส่วนตัวอ่างล้างหน้าเองก็มีพื้นที่เหลือพอให้วางของที่ต้องใช้งานเป็นประจำ อย่าง โฟมล้างหน้า และยาสีฟันได้
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ TOTO พร้อมสายชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ เมื่อสังเกตที่ด้านในฝั่งสายชำระจะเห็นท่อระบายน้ำ เผื่อไว้สำหรับกรณีที่เกิดน้ำล้นออกมา
ส่วนของ Shower Box ด้านในจะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง ทำให้เราสามารถขยับร่างกายในทุกอิริยาบถได้โดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดคับแคบ และมีมุมสำหรับติดตั้งชั้นวางของเพื่อใช้เก็บอุปกรณ์อาบน้ำทำความสะอาดต่าง ๆ ของเราได้ด้วย สำหรับฝักบัวที่ทางโครงการติดตั้งให้จะเป็นแบบ Hand Shower คู่กับที่วางสบู่
กลับออกมาที่บริเวณส่วนกลางของห้อง ถัดจากโต๊ะทานข้าวไปจะเป็นพื้นที่พักผ่อน อย่าง ห้องนั่งเล่นและระเบียงตามลำดับ โดยทางขวามือจะเป็นบริเวณที่ตั้งของห้องนอนขนาดใหญ่ ซึ่งทางโครงการ Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra ก็ได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเอาไว้ให้ที่ห้องนั่งเล่นแล้ว 1 เครื่อง
สำหรับระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ค่อนข้างกว้างมากพอสมควร เราจึงมีพื้นที่ไว้ให้วางโต๊ะกลาง และยังสามารถติดตั้งทีวีจอใหญ่ได้อย่างสบาย ๆ นอกจากนี้พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นก็ยังอยู่ติดกับระเบียง ทำให้แสงสว่างจากทางด้านนอกอาคารส่องเข้ามาช่วยเพิ่มความสว่าง และทดแทนการใช้ไฟภายในห้องได้อีกด้วย
ในส่วนของชั้นวางทีวีที่ทางโครงการให้มานั้น จะเป็นแบบบิลต์อินติดผนังสูงขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อย เราจึงดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้ยังแบ่งฟังก์ชัน ออกแบบเป็นลิ้นชัก 3 บาน ทำให้เราสามารถจัดเก็บของได้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะจัดเก็บแผ่นหนัง หรืออุปกรณ์ข้าวของอื่น ๆ ก็จัดการได้ตามใจชอบ
เพิ่มอรรถรสในการพักผ่อน ด้วยโซฟาตัวกลางที่ทางโครงการ Altitude Unicorn Sathorn - Tha Phra ยกมาตั้งไว้ให้กลางห้อง โดยด้านใต้ที่นั่งโซฟาจะซ่อนลิ้นชักเก็บของบานใหญ่ไว้ให้อีก 2 บาน เราจึงสามารถใช้จัดเก็บของได้ในตัวแบบมัลติฟังก์ชัน ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ให้กับห้องได้มากทีเดียว
ถัดไปที่ส่วนของ ‘ระเบียง’ ห้องกันต่อเลย โดยพื้นที่ Outdoor นี้ ก็นับว่าสามารถใช้งานได้หลากหลาย ตกแต่งเป็นได้ทั้งมุมพักผ่อนเอนกาย ด้วยการนำโซฟาเบดสักตัวมาวางไว้ ให้เราได้นอนเหยียดกายชมวิวเมืองสวย ๆ, จัดเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟยามเช้า พื่อเติมพลังต้อนรับวันใหม่, ตกแต่งทำสวนสีเขียวขนาดย่อม ไว้เติมความสดชื่นมีชีวิตชีวาให้กับห้อง หรือจะใช้เป็นส่วน Laundry สำหรับงานซักล้างตากเสื้อผ้าของเราได้เหมือนกัน
ไม่ต้องกังวลเรื่องคอมเพรสเซอร์แอร์ เพราะทางโครงการได้แขวนเอาไว้ที่ด้านบนกำแพง ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ ส่วนราวระเบียงของห้อง Type นี้จะเป็นกระจกนิรภัย มองเห็นวิวเมืองได้เต็มสายตา โดยไม่มีอะไรมาบดบังบรรยากาศภายนอก ทั้งยามกลางวัน และกลางคืน
กลับเข้ามาต่อที่ ‘ห้องนอนชั้นหนึ่ง’ ซึ่งทาง Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra จะให้เตียงนอนขนาดใหญ่พร้อมช่องเก็บของด้านใต้มาให้ นอกจากนี้ก็ยังมีโต๊ะเครื่องแป้ง, ตู้เสื้อผ้า, ช่องเก็บของข้างผนัง และเครื่องปรับอากาศมาให้ด้วยเช่นกัน
- ตู้เสื้อผ้า : สามารถเลือกได้ทั้งแบบเปิดและแบบปิด เพื่อให้เข้ากับสไตล์ความชอบของเรา
- ช่องเก็บของใต้เตียงมีขนาดใหญ่ สามารถจัดเก็บถุงเท้า, เสื้อชั้นใน รวมถึงชุดนอนต่าง ๆ เพื่อช่วยลดพื้นที่ในการจัดเก็บเสื้อผ้าได้
- โต๊ะเครื่องแป้งกับลิ้นชักสำหรับจัดเก็บเครื่องสำอาง ทำให้ห้องของเราเป็นระเบียบน่ามองได้มากทีเดียว
- ส่วนของตู้เสื้อผ้า : หากเลือกเป็นแบบเปิด ทางโครงการจะติดชั้นราวเหล็กเคลือบที่มีความแข็งแรงทนทานมาให้ด้วย ซึ่งเราจะสามารถแขวนและหยิบใช้เสื้อผ้าได้ค่อนข้างสะดวกขึ้น
สำหรับเครื่องปรับอากาศจะติดตั้งไว้ให้บริเวณปลายเตียง ขยับลงมาจะเจอปลั๊กไฟ และเคเบิ้ลทีวีสำหรับติดตั้งโทรทัศน์แบบแขวนผนัง ส่วนด้านข้างเตียงจะเป็นกระจกใสบานกระทุ้ง ที่สามารถเปิดออกออกเพื่อระบายอากาศ และรับลมธรรมชาติได้ดี
มาสำรวจพื้นที่บนชั้น 2 ของห้องกันบ้าง โดยบันไดทางขึ้นจะอยู่ระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน ทางเดินมีขนาดกว้างพอดี ไม่เล็กคับแคบจนเกินไป
เมื่อขึ้นมายังชั้น 2 เราจะเจอกับ ‘ห้องนอนหลัก’ อีกหนึ่งห้องที่มีขนาดเท่ากับชั้นล่าง และมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ครบครันอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเตียงพร้อมลิ้นชักเก็บของ 2 บาน, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะนั่งทำงานข้างเตียงพร้อมเก้าอี้ และเครื่องปรับอากาศ
ซึ่งตู้เสื้อผ้าก็สามารถเลือกได้ทั้งแบบเปิด และแบบปิด ส่วนบริเวณโต๊ะข้างเตียงก็สามารถแขวนกระจกติดผนังเพิ่มเติม เพื่อทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ในตัว
1 BEDROOM (24.07 sq.m.)
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.07 ตร.ม. เป็นขนาดห้องที่พอเหมาะสำหรับการอาศัยอยู่คนเดียว ไปจนถึงการอยู่เป็นคู่ โดยสัดส่วนของห้องนี้จะให้ความสำคัญไปที่ห้องนอนเป็นพิเศษ เพื่อให้สอดรับกับชั่วโมงพักผ่อน มีความสูงจากพื้นห้องถึงเพดานอยู่ที่ 2.7 เมตร ซึ่งค่อนข้างสูงกว่าคอนโดทั่วไป ทำให้ห้องดูสูงโปร่ง และดูกว้างขวางมากขึ้น
เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนนั่งเล่นอยู่ด้านนอกสุด โดยจะมีประตูอยู่กึ่งกลางระหว่างโซฟากับชั้นวางทีวี ถัดไปทางขวามือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ และมีส่วนครัวเปิดอยู่ถัดขึ้นไปจากโซฟาอีกต่อหนึ่ง ก่อนจะไปเชื่อมกับระเบียงด้านในสุด ส่วนทางเข้าห้องนอนนั้นจะอยู่บริเวณตรงกลางห้อง ระหว่างครัวและห้องน้ำนั่นเอง
- แม้จะมีขนาดเพียง 24 ตารางเมตร แต่ห้อง Type นี้ก็มีการจัดแบ่งสัดส่วนของแต่ละห้องไว้เป็นอย่างดี จึงทำให้ห้องดูกว้างและอยู่สบาย ส่วนครัวอยู่ติดกับระเบียง ทำให้เราเปิดระบายอากาศ กลิ่นและควันได้ทันที เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเองเป็นประจำ
เมื่อเปิดประตูเข้ามา เราก็จะเข้าสู่พื้นที่ของห้องนั่งเล่นแล้ว โดยประตูทางเข้าห้องนี้จะอยู่ระหว่างชั้นวางทีวีและโซฟา ทำให้รู้สึกเปิดโล่ง สามารถมองเห็นบรรยากาศรอบ ๆ ห้องได้ชัดเจน
ขยับไปทางซ้ายมือจะเป็น ‘ส่วนครัวเปิด’ ที่เชื่อมต่อยาวเข้าไปจรดระเบียงด้านนอก ส่วนตรงกลางห้องที่เห็นในภาพจะเป็นประตูทางเข้าห้องนอน มีห้องน้ำอยู่ทางขวามือ ติดกับประตูห้องนอนอีกทีหนึ่ง
สำหรับใน ‘ห้องนั่งเล่น’ ทางโครงการก็จะให้ชั้นวางทีวีพร้อมลิ้นชัก 3 บาน และโซฟาตัวกลางแบบ Multi Function ที่ซ่อนชั้นเก็บของด้านใต้มาให้เช่นเดียวกันกับห้อง Loft 1 Bedroom
- เราสามารถหากล่องเก็บของมาสอดไว้ด้านใต้ชั้นวางทีวี เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บ หรือหากจะติดเป็นตู้หรือชั้นเก็บของแขวนผนังไปเลยก็ได้เช่นกัน
ถัดเข้าไปจากห้องนั่งเล่น จะเป็น ‘ส่วนครัวเปิด’ ที่เชื่อมต่อกับระเบียง ซึ่งโครงการ Altitude Unicorn Sathorn - Tha Phra ก็ได้ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวแบบตั้งพื้น พร้อมตู้แขวนผนังมาให้ และพิเศษขึ้นอีกนิดด้วยโต๊ะทานข้าวแบบพับเก็บได้ ซึ่งจะมาคู่กับเก้าอี้นั่งอีก 2 ตัว
ส่วนด้านในสุดของครัวจะติดกับระเบียง โดยทางโครงการได้เว้นที่ว่างไว้ให้วางตู้เย็น และติดตั้งปลั๊กไฟที่ผนังด้านหลังให้เรียบร้อย นอกจากนี้ก็ยังติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้ อยู่เหนือประตูระเบียงขึ้นไป ทำให้เราสามารถล้าง ดูแลทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศได้ง่าย
สำหรับโต๊ะทานข้าวแบบพับเก็บได้ที่ทางโครงการให้มานั้น จะสามารถนั่งทานพร้อมกัน 2 คนได้สบาย ๆ แถมเมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็สามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้เลย หรือใครจะใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร สำหรับหั่น หรือจัดเตรียมวัตถุดิบก็ได้เหมือนกัน เรียกว่า สะดวกสบายเหมาะกับคนอยู่คอนโดยุคใหม่ ๆ จริง
เคาน์เตอร์ครัวของโครงการ Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra จะมาพร้อมกับพื้นที่จัดเก็บทั้งด้านบนและด้านล่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารแห้ง, เครื่องครัว, ภาชนะ หรือเครื่องปรุง ก็สามารถจัดเก็บได้อย่างเป็นระเบียบ และเพียงพอต่อความต้องการ
ส่วนด้านล่างเคาน์เตอร์ก็จะเว้นช่องไว้สำหรับไมโครเวฟพร้อมปลั๊กไฟที่ด้านหลัง โดยบริเวณท็อปครัวนั้น ทางโครงการจะให้ซิงก์ล้างจานสเตนเลสพร้อมก๊อกน้ำ และเตาไฟฟ้า 2 หัวจากแบรนด์ Teka มาให้เช่นเดียวกับห้อง Loft 1 Bedroom นอกจากนี้บริเวณผนังจะมีปลั๊กไฟสำหรับให้เสียบใช้งานเครื่องครัวอื่น ๆ อย่าง หม้อหุงข้าว หรือเครื่องทำแซนวิชได้
ออกมายัง ‘ระเบียงห้อง’ ซึ่งทางโครงการจะวางระบบน้ำเอาไว้ให้แล้ว เราจึงสามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าที่บริเวณนี้ได้ทันที ส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์ทั้ง 2 ตัวจะติดตั้งไว้เหนือพื้น เพื่อให้เราสามารถใช้งานระเบียงได้อย่างเต็มที่
กลับเข้ามายังส่วนพักผ่อนที่มีความเป็นส่วนตัวอย่าง ‘ห้องนอน’ กันอีกครั้ง โดยพื้นที่ของห้องนอนส่วนนี้ได้ออกแบบมาอย่างลงตัว สามารถตกแต่งเป็นได้ทั้งพื้นที่พักผ่อน, ห้องทำงาน และพื้นที่จัดเก็บของอเนกประสงค์ได้ในตัว ซึ่งบริเวณปลายเตียงจะมีเครื่องปรับอากาศและเคเบิลทีวีติดตั้งมาให้ สามารถแขวนทีวีเข้ากับผนังเพิ่มเติมได้
สำหรับฐานเตียงของห้อง Type นี้จะเป็นแบบยกระดับ พร้อมดีไซน์ใส่ลิ้นชักเก็บของ 4 บาน กับช่องลับลึกประมาณ 20 เซนติเมตรที่บริเวณปลายเตียงมาให้ด้วย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีของเยอะ เพราะสามารถจัดเก็บข้าวของ หลบซ่อนสายตาภายนอกได้อย่างแนบเนียน จึงทำให้ห้องดูโปร่ง เรียบร้อย และไม่เกะกะสายตาอีกด้วย
- บริเวณข้างเตียง : ทางโครงการจะให้โต๊ะทำงานตัวยาวพร้อมลิ้นชัก 2 บาน กับเก้าอี้นั่งมาให้คู่กัน โดยตำแหน่งที่นั่งของเราจะหันหน้าเข้าหาส่วนหน้าต่างบานกระทุ้งของห้องพอดี หากเวลาไหนอยากพักสายตา ก็สามารถมองออกไปดูวิวด้านนอกได้
- ตู้เสื้อผ้าจะวางอยู่ทางด้านหลังของโต๊ะทำงาน สามารถเลือกได้ทั้งตู้แบบเปิดและแบบปิด ซึ่งเราอาจติดตั้งกระจกเงา กับชั้นวางของเพิ่มเติมเพื่อทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเองได้ด้วย
มาถึงพื้นที่สุดท้ายภายในห้อง Type 1 Bedroom อย่าง ‘ห้องน้ำ’ เมื่อเราเปิดประตูเข้าไป ด้านหน้าของเราจะเป็นอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกเงาติดผนังขนาดใหญ่ ยาวไปถึง Partition ด้านในสุด ซึ่งจะเป็นส่วน Shower Box ที่ถูกกั้นด้วยกระจกนิรภัย เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก
- อ่างล้างหน้าและก๊อกน้ำจากแบรนด์ COTTO มาพร้อมกับชั้นวางของด้านล่าง
- โถสุขภัณฑ์แบรนด์ TOTO ที่มาพร้อมสายชำระ และแกนใส่ม้วนกระดาษชำระ
- ส่วนด้านในของ Shower Box ก็จะให้ฝักบัวแบบ Hand Shower พร้อมที่วางสบู่ และเว้นช่องสำหรับติดตั้งชั้นวางของเอาไว้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโครงการ
Location
ซึ่งในเดือนกันยายน 2562 ที่กำลังจะถึงนี้ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วง ‘หัวลำโพง-หลักสอง’ ก็จะเปิดให้เราได้ใช้บริการกันแล้ว โดยเส้นทางนี้จะอยู่ห่างจากสถานีตลาดพลูเพียงแค่ 2 สถานี และภายในปี 2563 ก็ยังจะมีการเปิดส่วนต่อขยายไปยังรถไฟฟ้าสายสีม่วงอีกด้วย ซึ่งคาดว่า...หากเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งหมดเปิดให้ใช้งานได้แล้วเสร็จจนครบลูป เราก็จะสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้รวดเร็วขึ้น ครบทุกเส้นทางอย่างไร้รอยต่อ นับเป็น ทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง และค่อนข้างให้ความสงบเป็นอย่างมาก จะซื้อเพื่ออยู่เองก็ดี หรือจะปล่อยเช่าก็เหมาะไม่น้อย
และไม่ใช่แค่ระบบรางอย่างรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ใกล้ ๆ กับโครงการ Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra ที่บริเวณด้านล่างสถานีตลาดพลู จะยังมีตัวเลือกอย่าง BRT สถานีราชพฤกษ์ (B12) ให้ใช้บริการกันด้วย โดยสถานีนี้เป็นป้ายสุดท้ายของทางเดินรถ BRT ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังสถานีต้นทางอย่างสาทร (B1) ได้ หากใครทำงานอยู่แถวสาทรก็อาจเลือกเดินทางด้วยวิธีนี้ ก็นับว่าสะดวก และตอบโจทย์ในวันเร่งรีบได้ดีทีเดียว
สำหรับใครที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางไปยังพระราม 3 และจรัญสนิทวงศ์ได้ด้วยถนนรัชดาภิเษก ส่วนถนนเส้นราชพฤกษ์เองก็สามารถเชื่อมไปสู่ฝั่งนนทบุรีได้เหมือนกัน ซึ่งเส้นทางนี้จะมีไลฟ์สไตล์การกิน เที่ยว ชอป อย่างพวกร้านอาหารและ Community Mall ให้เลือกมากมาย หากใครกำลังมองหาแหล่ง Chill Out ใกล้บ้านอยู่ล่ะก็ ลองแวะไปดูย่านนี้กันได้
BTS ตลาดพลู : ย่านเก่าเคล้าใหม่ที่อุดมไปด้วยอาหารการกินชั้นยอด
นอกจากรถไฟฟ้า BTS สถานีตลาดพลู จะสามารถเชื่อมต่อไปยัง BRT สถานีราชพฤกษ์ได้แล้ว ที่ตลาดพลูแห่งนี้ยังเป็นย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินอร่อยอีกด้วย เพราะแค่เดินทางจาก BTS สถานีตลาดพลูเพียง 800 เมตร เราก็สามารถเข้าถึง ‘ตลาดพลู’ ตลาดเก่าแก่ชื่อดังของย่านนี้ได้แล้ว
- ตลาดพลู : แหล่งรวมตำนานความอร่อยที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็นข้าวหมูแดงหมูกรอบ, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ, ผัดผักกระเฉดกุ้ง, บะหมี่ตงเล้ง, กุยช่าย, ขนมเบื้อง หรือจะเมนูไหน ๆ ที่นี่ก็ไม่ทำให้คุณผิดหวัง แวะมาฝากท้องให้อิ่มใจกันได้ใกล้ ๆ เดินถึงภายใน 10 นาทีเท่านั้น
- The Mall ท่าพระ : ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ใกล้โครงการอีกหนึ่งแห่ง ที่รวบรวมทั้งความบันเทิงอย่าง โรงภาพยนตร์, สถานที่ออกกำลังกายสำหรับคนรักสุขภาพ, ร้านอาหารและคาเฟ่ชั้นนำ ตลอดจนศูนย์บริการต่าง ๆ อีกมากมาย ครบจบทุกความต้องการในทีเดียว แถมยังอยู่ใกล้โครงการเพียง 500 เมตรเท่านั้น
BTS ตากสิน : เชื่อมต่อการเดินทางด้วยเรือ พบประสบการณ์ใหม่ของศูนย์การค้าและแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง
หากออกจาก BTS สถานีตากสินทางออก 2 เราจะสามารถเชื่อมเข้าสู่การเดินทางทางเรือได้ที่ ท่าน้ำสาทรทันที โดยท่าเรือนี้จะพาเราเดินทางไปยังย่านอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกและคล่องตัว แถมยังเชื่อมต่อไปยังฝั่งนนทบุรีได้อีกทางหนึ่ง
และแน่นอนว่า ถ้าพูดถึงศูนย์การค้ายอดนิยมของย่านฝั่งธนในเวลานี้ ก็ต้องยกให้กับ ICONSIAM แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชาวกรุงเทพฯ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ดึงเอาวัฒนธรรมความเป็นไทย เข้ามาผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว การเดินทางไปก็ง่ายดาย แถมไม่นานอย่างที่คิด เพราะมีจุดบริการเรือรับ-ส่ง ICONSIAM ให้ขึ้นได้ที่ท่าเรือสาทรเช่นกัน โดยจะมีรอบของเรือให้บริการทุก ๆ 10 นาที
ด้วยพื้นที่ขนาด 50 ไร่ บนความสูงกว่า 11 ชั้นของศูนย์การค้า ICONSIAM ทำให้ที่นี่รวบรวมความเป็นที่สุดของทั้งแหล่งชอปปิง และร้านอาหารการค้าชั้นนำเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น...
- ชั้น G และ UG : พบกับโซนสุขสยาม แหล่งรวบรวมอาหารไทย 4 ภาค จาก 77 จังหวัด ที่คัดสรรร้านดังเจ้าเด็ดมาไว้ให้คุณได้ลิ้มลองถึงที่
- ชั้น MF - ชั้น 3 : แหล่งรวบรวมสินค้าแฟชันแบรนด์ดังชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก และสินค้าเทคโนโลยีทันสมัย เอาใจขาชอป
- ชั้น 4 : โซนของแต่งบ้าน และเทคโนโลยี
- ชั้น 5 : แหล่งรวมธุรกรรมทางการเงิน และบริการอื่น ๆ มากมาย
- ชั้น 6 : พื้นที่ของโรงภาพยนตร์ระดับโลก และร้านอาหารชื่อดัง น่าลิ้มลอง
- ชั้น 7 : ชั้นเอาใจคนรักสุขภาพด้วยสถานที่ออกกำลังกาย Fitness First
BTS ช่องนนทรี : แหล่งงานใจกลางเมือง ที่คึกคักแบบ All Day
BTS ช่องนนทรี ก็ต้องมาคู่กับแลนด์มาร์กสุดโดดเด่นประจำตัวอย่าง ‘สะพานช่องนนทรี’ สีขาวสะดุดตา เปรียบดังสัญลักษณ์ของความเจริญ และผู้คนที่ขวักไขว่ นอกจากนี้ก็ยังเป็นสถานีปลายทางสุดท้ายของ BRT อย่าง สถานีสาทร ด้วย
ซึ่งที่นี่ ก็คือ หนึ่งในแหล่งงานของชาวออฟฟิศที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางระหว่างแยกสาทร-นราธิวาส กับแยกสีลม-นราธิวาส ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมด้านเศรษฐกิจ รายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานชั้นนำ และตึกสูงมากมาย
MRT สีลม : ย่านที่รวมความเป็นไลฟ์สไตล์ แสงสี และธรรมชาติสีเขียวแสนสงบเข้าไว้ด้วยกัน
หากเดินทางจาก BTS สถานีตลาดพลู มุ่งหน้ามายังสถานีศาลาแดง เราก็จะสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่การเดินทางในรูปแบบของรถไฟฟ้าใต้ดินได้ที่ MRT สถานีสีลม
เริ่มต้นด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่าง Silom Complex ศูนย์การค้าแห่งเดียวบนถนนสีลม ภายในพื้นที่กว่า 7 ไร่ ได้รวบรวมทั้งร้านค้าแฟชัน, ร้านอาหารน่านั่ง และความบันเทิงต่าง ๆ ไว้มากมาย ให้คุณเข้ามาเดินเล่นผ่อนคลายความเหนื่อยล้ากับกลุ่มเพื่อน ในช่วงเวลาหลังเลิกงานได้
สำหรับใครที่อยากสูดอากาศบริสุทธิ์ใจกลางเมือง ใกล้ ๆ กันก็ยังมีพื้นที่สีเขียวอย่าง ‘สวนลุมพินี’ ไว้คอยตอบโจทย์คนที่อยาก Relax วันหนัก ๆ ด้วยบรรยากาศดี ๆ ที่ไม่ว่าจะเดินเล่นชมผู้คนผ่านไปมา, นั่งพักใต้เงาไม้, หรือปั่นเรือเป็ด ก็ล้วนช่วยชาร์จพลังให้กับเราได้เป็นอย่างดี ส่วนใครอยากออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสาย ที่นี่ก็มีพื้นที่กว้างขวางให้คุณได้วิ่งชมวิวสวนกันอย่างสบายใจอีกด้วย
พบกับ...รูปแบบการอยู่อาศัยในมุมสงบ ครบเครื่องเรื่องการเดินทางได้แล้ววันนี้ ที่ Altitude Unicorn Sathorn – Tha Phra (อัลติจูด ยูนิคอร์น)
พบโปรโมชัน Special Unit ราคา 1.99 ล้านบาท และ Special Promotion ลด 500,000 บาท ได้ที่งาน Pre-Sale Altitude Unicorn วันที่ 20-21 กรกฎาคมนี้เท่านั้น
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 093-663-5656